วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ซาอูล ญิเกซ ไม่คิดว่ารอบชิงคือการแก้แค้น




ซาอูล ญิเกซ มิดฟิลด์เท้าตะขอของสโมสร แอตเลติโก มาดริด แสดงการยืนยันอีกครั้งว่าการที่ต้นสังกัดของเขาจะเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พบกับทีมราชันชุดขาว จะไม่ใช่การแก้แค้นแต่อย่างใด แต่เป็นการเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาในสโมสรให้ได้อีกครั้งเท่านั้น
ในสนาม ซาน ซีโร่ กำลังจะมีโคตรเกมของยุโรปเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นการเจอกันเองระหว่างสองทีมจากกรุงมาดริดที่เคยชิงกันมาแล้วเมื่อปี 2014 และในครั้งนั้นเป็น เรอัล มาดริด เอาชนะไปได้แบบหวุดหวิด แม้ว่าผลจะออกมาด้วยสกอร์ 4-1 แต่เป็นการชนะได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ทีมชุดขาวเป็นแชมป์สมัยที่ 10 เข้าไปแล้ว
ทั้งนี้ ซาอูล ญิเกซ ได้รับการจับตามองมากขึ้นกว่าเดิมมากเนื่องจากเป็นหนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นสุดๆในเกมรอบรองชนะเลิศที่พบกับ บาเยิร์น มิวนิค ในสนาม บิเซนเต้ กาลเดร่อน โดยการเลี้ยงบอลกระชากไปทำประตูชัยให้กับทีมได้นั้นเป็นประตูที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งกรุยทางการเข้าไปเล่นในรอบชิงได้อีกครั้ง
ถ้ามีคนบอกว่า เรอัล เป็นทีมที่ดีกว่าพวกเรา เรื่องนี้พวกเขาต้องมาพิสูจน์กันกับพวกเราในสนามนะ
ในเกมรอบชิงชนะเลิศที่กรุงมิลานไม่ได้เป็นการเตรียมการแก้แค้นของพวกเราจากที่ลิสบอนหรอกครับ มันคือโอกาสเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรเราก็เท่านั้นเอง เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ทุกๆคนเข้าใจได้
พวกเราทราบถึงความยากลำบากในการเล่นกับ เรอัล มาดริด แต่เราไม่อาจคิดถึงเรื่องอื่นได้นอกเสียจากคำว่าชัยชนะ
ผลงานในฤดูกาลนี้ของ ซาอูล ญิเกซ ยอดเยี่ยมมากและแสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นคนสำคัญของทีมอย่างแท้จริง เพราะลงเล่นไปมากถึง 47 เกมแถมยิงได้ถึง 9 ประตูให้กับทีม ซึ่งจากผลงานแบบนี้สโมสรก็ไม่ได้นิ่งนอนใจรีบจับต่อสัญญาอย่างรวดเร็วไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นสัญญาระยะยาวกับต้นสังกัด
นอกจากนี้ทีมของ ซิเมโอเน่ ยังมีข่าวดีอีกเรื่องก็คือ อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าผมทองของสโมสรก็เตรียมต่อสัญญากับต้นสังกัดเช่นเดียวกันก่อนจะเริ่มเล่น ยูโร 2016 ที่บ้านเกิดในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้
ที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ กรีซมันน์ กดไปแล้วมากถึง 22 ประตูด้วยกันและกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งประตูได้มากที่สุดของทีมทั้งๆที่ยังอายุน้อยและเพิ่งย้ายมาอยู่กับทีมได้เป็นเพียงฤดูกาลที่สอง
แม้ว่าปัจจุบันทีมตราหมีจะได้อันดับที่ 3 ในฤดูกาลนี้ แต่พวกเขานั้นเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสรได้อีกครั้งหากเอาชนะทีมคู่ปรับร่วมกรุง มาดริด ได้สำเร็จ และเกมดังกล่าวจะเป็นการ re match การแข่งขันเมื่อปี 2014 หรือเมื่อสองปีที่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น